วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้อดี และข้อเสียของ WiMAX

ข้อดีของ WiMAX

1. ความเร็ว
WiMAX มีอัตราความเร็วในการส่งสัญญาณข้อมูลถึง 75 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) โดยสามารถส่งสัญญาณออกไปได้ในระยะทางไกลถึง 30 ไมล์ หรือ 48 กิโลเมตร ภายใต้คลื่นความถี่ระดับสูงที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ทำให้ไร้ปัญหาในเรื่องของสัญญาณสะท้อน อีกทั้งสถานีฐาน (Base Station) ยังสามารถพิจารณาความเหมาะสมในระหว่าง ความเร็ว และระยะทางได้อีกด้วย

2. การบริการที่ครอบคลุม
มาตรฐาน IEEE 802.16a สามารถรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีซึ่งขยายพื้นที่การให้บริการให้กว้างขวางมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น ระบบเครือข่าย ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ ผสมผสาน (Mesh Topology) และเทคนิคการใช้งานกับเสาอากาศแบบอัจฉริยะ (Smart Antenna) ที่ช่วยประหยัดต้นทุนและเพิ่มอัตราความเร็วของ การรับส่งสัญญาณที่ให้สมรรถนะในการทำงานน่าเชื่อถือ

3. ความสามารถในการขยายระบบ
WiMAX สามารถรองรับการใช้งาน Bandwidth และช่องสัญญาณสำหรับการสื่อสารได้ โดยปรับให้สอดคล้องกับแผนการติดตั้งในย่านความถี่ที่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ หรือย่านความถี่ที่ได้รับการยกเว้นค่าลิขสิทธิ์ทั่วโลก เช่น โอเปอเรเตอร์ที่ให้บริการได้รับคลื่นความถี่ 20 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ก็สามารถแบ่งคลื่นความถี่นี้ออกเป็น 2 ส่วน โดยแต่ละส่วนนั้นอยู่ที่ 10 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) หรือจะแบ่ง ออกเป็น 4 ส่วนๆ ละ 5 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ก็ได้ ทำให้โอเปอเรเตอร์สามารถบริหารจัดการแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเพิ่มเติมผู้ใช้งานในแต่ละส่วนได้อีกด้วย

4. การจัดลำดับความสำคัญของงานบริการ (QoS - Quality of Service)
WiMAX มีคุณสมบัติด้าน QoS (Quality of Service) ที่รองรับการทำงานของบริการสัญญาณเสียงและสัญญาณวิดีโอซึ่งต้องการระบบเครือข่ายที่ไม่สามารถทำงานด้วยความล่าช้าได้ บริการเสียงของ WiMAX อาจจะอยู่ในรูปของบริการ Time Division Multiplexed (TDM) หรืออยู่ในรูปแบบ Voice over IP (VoIP) ก็ได้ โดยโอเปอเรเตอร์สามารถกำหนดระดับความสำคัญของการใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานต่าง ๆ

5. ระบบรักษาความปลอดภัย
เป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยคุณสมบัติของการรักษาความลับของข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งอยู่ในมาตรฐาน WiMAX ที่จะช่วยให้การสื่อสารมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แถมยังมีระบบตรวจสอบสิทธิการใช้งานและมีระบบการเข้ารหัสข้อมูลในตัวด้วย




ข้อเสียของ WiMAX

1. เนื่องจาก WiMAX เพิ่งมีการคิดค้นและเริ่มพัฒนา ดังนั้นในเรื่องของมาตรฐาน รวมไปถึงการพัฒนาของผู้ผลิตที่ต้องการนำมาตรฐาน WiMAX ไปพัฒนาเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งานจริงจึงนั้นยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ อุปกรณ์ก็ยังไม่หลากหลายจึงต้องอาศัยเวลากว่าจะได้รับความนิยม

2. อุปกรณ์ WiMAX ค่อนข้างมีราคาสูง เพราะมีการผลิตออกมาใช้น้อย

3. WiMAX ใช้ความถี่ช่วง 2 - 6 GHz (802.16e) และ 11 GHz (802.16d) ซึ่งบางประเทศนั้นมีการควบคุมคลื่นความถี่ในช่วงดังกล่าวต้องมีการขออนุญาตก่อนให้บริการ และในบางประเทศไม่มีข้อกำหนดตรงนี้ ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนวางระบบ WiMAX ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น